นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยความคืบหน้าการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1.4 แสนล้านบาทว่า คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการฯ ได้ดำเนินการคัดเลือกเอกชนตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เสร็จเรียบร้อย และเสนอผลการคัดเลือกเอกชน พร้อมทั้งร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ ไปยังกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว เวลานี้จึงอยู่ที่การพิจารณาของ ครม. ชุดใหม่ว่า จะอนุมัติเห็นชอบหรือไม่ และให้ดำเนินการโครงการนี้อย่างไรต่อไป
นายภคพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ระยะเวลายืนยันราคาการประมูลตามที่เอกชนเสนอได้หมดลงแล้ว โดยทาง รฟมคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด. ได้ทำหนังสือขอให้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ชนะการประมูล ขยายเวลาการยืนยันราคาการประมูล ซึ่งทาง BEM ก็ยินดีขยายเวลายืนยันราคาออกไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อรอการพิจารณาของ ครม. ชุดใหม่ ทั้งนี้ปัจจุบันยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะได้ลงนามสัญญากับเอกชนเมื่อใด ต้องขึ้นอยู่กับ ครม. ว่าจะอนุมัติหรือไม่
นายภคพงษ์ กล่าวอีกว่า หาก ครม. อนุมัติก็จะสามารถลงนามสัญญากับเอกชน และเริ่มการก่อสร้างโครงการส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 13.4 กม. ได้ทันที ตลอดจนเปิดให้บริการส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 22.5 กมคำพูดจาก ทดลองสล็อต pg. ได้ ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จ 100% แต่หาก ครม. ไม่อนุมัติ และให้เปิดประมูลใหม่ การเปิดบริการส่วนตะวันออก และการก่อสร้างส่วนตะวันตกก็จะล่าช้าไปจากแผนงานอีกประมาณ 1 ปี
นายภคพงศ์ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันออก มีความคืบหน้า 99.96% โดยมีงานก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% จำนวน 5 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-รามคำแหง 12 กลุ่มกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที (บมจ.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น-บมจ.ช.การช่าง) เป็นผู้รับจ้าง,สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงรามคำแหง 12-หัวหมาก กลุ่มกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที เป็นผู้รับจ้าง,สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงหัวหมาก-คลองบ้านม้า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง,
สัญญาที่ 5 งานก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร กลุ่มกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที เป็นผู้รับจ้าง และสัญญาที่ 6 งานก่อสร้างระบบราง บมจ.ยูนิคฯ เป็นผู้รับจ้าง ส่วนอีก 1 สัญญาที่อยู่ระหว่างการเก็บรายละเอียดด้านสถาปัตยกรรมภายในสถานีคือ สัญญาที่ 4 งานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่ง และสถานียกระดับ ช่วงคลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 99.70% ทั้งนี้ในส่วนของ 5 สัญญาที่งานก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% ปัจจุบันคณะกรรมการตรวจการจ้าง อยู่ระหว่างการตรวจรับงาน โดยผู้รับเหมาจะรับประกันผลงาน 2 ปี ก่อนที่ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ จะเข้ามารับช่วงดูแลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดือน มี.ค. 66 นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล กรรมการบริหาร BEM ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า BEM เสนอขอสนับสนุนค่างานโยธาจากรัฐ 9.15 หมื่นล้านบาท ส่วนการเดินรถเสนอจ่ายเงินตอบแทนให้รัฐประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เมื่อนำผลตอบแทนให้รัฐหักกับค่าอุดหนุนงานโยธา คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน (NPV) และเป็นผลประโยชน์สุทธิ ที่ประมาณ 7.82 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าผลศึกษา หรือราคากลางประมาณ 7% พร้อมทั้งยังได้เพิ่มข้อตกลง 2 ประเด็นคือ 1. ให้ตรึงราคาค่าโดยสารเท่ากับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ณ ปีที่เปิดให้บริการ 10 ปี และให้ BEM รับภาระค่าดูแลรักษาส่วนตะวันออก ภายหลัง รฟม. ส่งมอบพื้นที่ให้ประมาณ 50 ล้านบาทต่อเดือนด้วย ทั้งนี้หากสามารถลงนามสัญญาได้ จะสั่งซื้อรถไฟฟ้าเพื่อเดินรถส่วนตะวันออกได้ประมาณปี 69 หรือเร็วกว่านั้น.